มาทำความรู้จักโคมไฟคริสตัลก่อนไปตกแต่งบ้านให้สวยงามกันเถอะ

            คริสตัล หรือ “แก้วผลึก” ที่ใช้ในโคมไฟและแชนดาเรียส่วนใหญ่เป็นวัสดุที่หลอมขึ้นจากแก้ว โดยมีสารประกอบของซิลิกาและสารผสมของตะกั่วออกไซด์มากกว่าร้อยละ 24 ทำให้มีค่าดัชนีหักเหสูงกว่าแก้วทั่วไป ด้วยกระบวนการหลอมให้เป็นของเหลวที่อุณหภูมิสูงและทำให้เปลี่ยนสภาพเป็นของแข็งเมื่อเย็นตัวลงโดยไม่ตกผลึก ทำให้ได้เนื้อโปร่งใส ประกายแวววาวสวยงาม เมื่อผ่านการตกแต่งด้วยการตัด เจียระไน และแกะสลักเป็นลวดลายต่างๆ ด้วยการผลิตที่ซับซ้อน ผนวกกับความละเอียดประณีตแบบงานเจียระไน ทำให้คริสตัลมีราคาสูงต่างจากวัสดุแก้วทั่วไป และสามารถสร้างมูลค่าในตลาดสินค้าได้ดีทั้งในตลาดเครื่องประดับ รวมถึงในอุตสาหกรรมการผลิตหลอดโทรทัศน์และหลอดนีออนเนื่องจากคุณสมบัติในการต้านทานไฟฟ้า

คริสตัลที่เกิดจากธรรมชาติ จะเป็นคริสตัลที่ใช้ในเครื่องประดับ เครื่องรางรวมไปถึงการรักษาโรค มาจากแร่หินที่มีความแวววาว และมีสีสันแตกต่างกันออกไป ขึ้นอยู่กับชนิดของสารประกอบที่ละลายอยู่ในหินนั้นๆ คริสตัลนี้เกิดจากการตกผลึก (Crystallization) ตามธรรมชาติ ที่ทำให้เกิดผลึกของแข็งในสารละลายเนื้อเดียว ทั้งที่อยู่ในสถานะของเหลวและก๊าซ เมื่อสารละลายอิ่มตัวอย่างยิ่งยวดจากตัวถูกละลาย (Solute) ซึ่งในธรรมชาติสามารถละลายได้ดีในตัวทำละลาย (Solvent) ที่มีอุณหภูมิสูง ดังนั้น เมื่อสารละลายอุณหภูมิสูงดังกล่าวเย็นตัวลง จึงก่อให้เกิดการแยกตัวของสารเกิดเป็นผลึกของแข็ง ซึ่งเรียกว่า การตกผลึกตามธรรมชาติ ซึ่งคริสตัลที่เป็นที่นิยมในไทยมาจากแร่ โรสควอตซ์, อเมทิสต์, ไพไรต์, ไหมทอง, ควอตซ์ใส เป็นต้น

            อย่างที่กล่าวในตอนต้น คริสตัลที่ใช้ในโคมไฟส่วนใหญ่ แม้แต่แบรนด์ระดับโลกอย่าง สวารอฟสกี้ เป็นวัสดุที่สังเคราะห์ขึ้นมาจากแก้วทั้งสิ้น ขึ้นอยู่กับว่าจะสังเคราะห์ขึ้นที่ไหน ใครเป็นผู้ผลิต มีส่วนผสมที่แตกต่างกัน

หลายคนคงจะสงสัยเพิ่มเติมว่า คริสตัลกับแก้วทั่วไปต่างกันอย่างไร?

            คริสตัลกับแก้วในทางวิทยาศาสตร์ แก้ว จะเป็นชื่อสามัญ ในขณะที่คริสตัลเป็นประเภทย่อยของแก้ว แต่ในการผลิตจะมีขั้นตอนคล้ายกัน จะแตกต่างกันที่วัตถุดิบที่ใช้ในการผลิต เราจะจำแนกความแตกต่างระหว่างคริสตัลกับแก้วดังนี้

•          มีส่วนผสมของทรายละเอียดกับสารโลหะออกไซด์ สูงเกิน 32%

•          มีการหักเหของแสงได้ดี สะท้อนแสงเป็นประกาย

•          มีความใสและไม่มีรอยร้าว

•          มีเสียงกังวาน

•          แข็งแรงทนทาน

•          มีราคาสูงกว่าแก้วทั่วไป เนื่องจากขั้นตอนการผลิต

•          ทำจากวัสดุหลากหลาย และมีส่วนผสมของสารโลหะอยู่ระหว่าง 25-32%

•          มีการหักเหของแสงได้น้อย สะท้อนแสงได้ไม่มาก

•          มีความใสไม่แน่นอนและสามารถเกิดรอยร้าวได้

•          มีเสียงทึบเมื่อใช้ปากกาเคาะ

•          มีความเปราะบางหากเกิดการกระแทกทำให้แตกได้

•          มีราคาถูกเพราะผลิตได้ง่าย

และคริสตัลแตกต่างจากอะคริลิคอย่างไร?

ลักษณะชิ้นงานจะมีความใส และมีน้ำหนักมากกว่า อะคริลิคและให้การสะท้อนแสงเป็นสีรุ้งสวยงาม ความพิเศษของคริสตัล ที่แตกต่างจากอะคริลิคชัดเจนคือ คริสตัล สามารถยิงข้อความ หรือรูปภาพเข้าไปด้านในได้แต่ถ้าเป็นงานอะคริลิค เราจะยิงเลเซอร์ได้เพียงผิวด้านนอก

             เมื่อทุกคนรู้จักคริสตัลที่ใช้ในโคมไฟแล้ว อยากรู้ต่อไหมว่า ทำไมโคมไฟคริสตัลถึงเป็นที่นิยมสำหรับทุกบ้านที่ต้องการสวยงามและมีสง่าราศี luxury  ก่อนอื่นเราจะนำท่านไปทำความรู้จักกับแชนเดอเรียและโคมไฟแขวนว่าแตกต่างกันอย่างไร?

แชนเดอเรีย คือ
            แชนเดอเรีย (Chandelier) หรือ โคมระย้า เป็นของตกแต่งเพดาน ในอดีตเป็นสิ่งที่ประดิษฐ์ขึ้นจากไม้ ใช้เทียนให้แสงสว่าง ซึ่งพบเห็นได้ตามโบสถ์ต่าง ๆ หรือบ้านของเหล่าเศรษฐี หลังจากนั้นดีไซน์ของแชนเดอเรีย ก็เริ่มมีการเปลี่ยนรูปแบบและขนาด เพื่อให้เข้ากับบ้านสมัยใหม่และใช้กับหลอดไฟได้
     
ข้อมูลเพิ่มเติม>>>

ข้อมูลเพิ่มเติม>>>

ข้อมูลเพิ่มเติม>>>

แชนเดอเรีย โคมไฟแขวน แตกต่างกันอย่างไร?
            แม้ทั้ง 2 อย่างนี้จะใช้สำหรับตกแต่งเพดานเหมือนกัน แต่ก็มีข้อแตกต่างอยู่ไม่น้อย ทั้งการติดตั้ง วัสดุ ดีไซน์ และราคา ดังนี้
          - การติดตั้ง : โคมไฟแขวนใช้สายไฟ 1 เส้น ส่วนมากจะมีก้านห้อยโคมไฟเพียงก้านเดียว และใช้หลอดไฟไม่เกิน 2 หลอด ต่อชิ้น ส่วนแชนเดอเรีย นั้นมีกิ่งไฟเยอะทำให้ใช้หลอดไฟมากกว่า
          - วัสดุ : โคมไฟแขวนมีการผลิตจากหลายวัสดุ อาทิ แก้ว นิเกิล ทองแดง กระจกสเตนกลาส ( Stained Glass) ฯลฯ แต่แชนเดอเรีย ส่วนใหญ่จะทำจากเหล็ก ทองแดง ครีสตัล หรือกระจก เท่านั้น เลยทำให้มีน้ำหนักมากกว่าโคมไฟแขวนนั่นเอง
          - ดีไซน์ : ทั้งโคมไฟแขวนและแชนเดอเรียมีหลายดีไซน์ให้เลือก แต่โคมไฟแขวนมีดีไซน์ที่ทำให้ยืดหยุ่นการใช้งานได้มากกว่า เพราะเหมาะกับทุกห้องในบ้าน ในขณะที่ดีไซน์ของแชนเดอเรียนั้น ถูกออกแบบให้เข้ากับห้องรับประทานอาหารและห้องครัวมากกว่า
          - ราคา : สำหรับราคาของโคมไฟแขวนก็มีให้เลือกหลายระดับ ตามวัสดุที่ใช้ผลิต ซึ่งค่อนข้างถูกกว่าแชนเดอเรีย ที่มีขนาดใหญ่กว่าและใช้วัสดุในการผลิตที่แพงกว่า
ข้อมูลเพิ่มเติม>>>

ข้อมูลเพิ่มเติม>>>

ซึ่งโคมไฟหรือแชนดาเรียคริสตัลทำมาจากคริสตัลหลายประเภทดังนี้

‍คริสตัลสวารอฟสกี้ (ออสเตรีย) Swarovski Crystal (Austrian)
‍     สวารอฟสกี้เป็นคริสตัลที่ดีที่สุดในโลก มีความใส บริสุทธิ์ ไม่มีที่ติ และยอดเยี่ยมด้วยเนื้อตะกั่วมากกว่า 30% เเต่มันก็ยังมีสีต่างๆให้เลือก

‍

คริสตัลหลากสี (Colored Crystal)
‍     คริสตัลหลากสีสามารถให้เอฟเฟกต์ที่แตกต่างกันและใช้ในโคมไฟคริสตัลหลายประเภท

‍Gem Cut, Egyptian, Or Spectra Lead Crystal
‍

     คริสตัล Gem Cut เป็นคริสตัลมีปริมาณลีดออกไซ์ด์สูง มันจึงมีความใส มีรปทรงที่เหลี่ยม งดงามไร้ที่ติ มีความใสคม มีความบริสุทธิ์ เเละมีความแวววาว แต่ต้องการการบำรุงรักษาที่ดี

‍Turkish, Heirloom, Bohemian, Czech Crystal
‍     คริสตัลโบฮีเมียนมีส่วนผสมของออกไซด์ เช่น โซดาแอช ด้วยสาเหตุนี้จึงสร้างความแตกต่างในด้านราคา เมื่อเทียบกับคริสตัลที่มีส่วนผสมจากตะกั่ว เเต่มันก็ยังคงมีความใส และมีการหักเหของแสงที่สูงเช่นกัน
‍

แก้วมูราโน่ (Murano Glass)
‍     คริสตัลมูราโน่เป็นคริสตัลแบบเป่าด้วยมือที่ทำโดยช่างฝีมือและสามารถปั้นเป็นวงกลม ทรงดอกไม้ และรูปทรงที่เป็นเอกลักษณ์ต่างๆ ทั้งยังสามารถใส่สีเข้าไปได้

‍คริสตัลสีเนื้อไม้ (Wood-Polished Crystal)
‍     คริสตัลสีเนื้อไม้ถูกตัดด้วยโดยมือช่างมืออาชีพ ซึ่งเเบ่งออกเป็นสองขั้นตอน ขั้นตอนที่หนึ่งคือตัดหิน ขั้นตอนที่สองคือใช้เครื่องเจียรไนเจียหินซึ่งต้องใช้เเรงงานเป็นจำนวนมากในการทำ หลังจากนั้นคริสตัลแต่ละชิ้นจะถูกขัดเงาบนวงล้อไม้ เพื่อให้ได้รูปทรงที่ต้องการ

‍แก้วปั๊ม (Pressed Glass)
‍     โดยทั่วไปแก้วปั๊มทำจากทราย โซดา และปูนขาว โดยการใช้เตาเผาในการอุ่น โดยปกติจะใช้เเม่พิมพ์ (ขึ้นรูป) หรือ "วาด" (ขึ้นรูปใหม่) จากนั้นคริสตัลจะถูกเจียระไนและขัดเงา เเก้วปั๊มมีราคาแพงที่สุด

‍คริสตัลอิตาเลียน (Italian Crystal (Legacy, Venetian)
‍     กระจก Venetian มีชื่อเสียงในด้านความสวยงามและความใส โดยปกติจะมีเเม่พิมพ์และต้องขัดด้วยไฟ ทำให้มันดูระยิบระยับ สามารถใช้ในโคมไฟคริสตัล ทั้งยังใช้ทำแจกัน และเครื่องประดับอื่นๆ มันเป็นตัวเลือกที่ราคาไม่แพงเมื่อเทียบกับแก้วเจียระไนชนิดอื่น ๆ
‍

หินคริสตัล (คริสตัลควอตซ์) Rock Crystal (Quartz Crystal)
     หินคริสตัลสามารถเห็นได้จากโคมไฟคริสตัลที่เก่าแก่ที่สุด โดยเฉพาะที่ใช้ในพระราชวังและพิพิธภัณฑ์ มันใช้วิธีการขยายและสะท้อนแสง มันเป็นสิ่งที่ธรรมชาติสร้างขึ้น ดังนั้นต้องขุดขึ้นมา เเละต้องตัด ขัด ด้วยช่างเจียระไนอัญมณี

คริสตัลออโรร่าบอเรียลิส (Aurora Borealis Crystal)
     คริสตัลชนิดนี้สามารถสร้างสายรุ้งที่สวยงามบนพื้นผิวใกล้เคียงเมื่อสัมผัสกับแสงโดยตรง อย่างไรก็ตามคริสตัล Aurora Borealis ดูสวยงามแม้จะไม่มีแสง นอกจากนี้ Aurora Borealis ยังถูกนำไปใช้กับด้านหนึ่งของปริซึม

 Classic Crystal (Chinese)
     เป็นแบรนด์คริสตัลที่ผลิตในประเทศจีน ได้รับความนิยมและเป็นที่รู้จักในวงกว้างเป็นอย่างมากในวงการคริสตัล โดยเฉพาะในการผลิตและจัดจำหน่ายโคมไฟและอุปกรณ์ตกแต่งภายในที่ใช้คริสตัลเป็นวัสดุหลัก
     Classic Crystal มีคุณภาพที่ดีและมีความสวยงาม เนื่องจากมีการคัดเลือกวัตถุดิบที่มีคุณภาพสูงและใช้กระบวนการผลิตที่มีมาตรฐานสูง เพื่อให้ได้ผลิตภัณฑ์ที่มีความสมบูรณ์และการสะท้อนแสงที่สวยงามนอกจากนี้ Classic Crystal ยังมีการออกแบบที่หลากหลายเพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าทั้งในเรื่องขนาดและรูปทรง มีความหลากหลายในสไตล์ที่จะเหมาะสมกับบ้านหรือห้องต่าง ๆ

‍ข้อมูลเพิ่มเติม>>>

K9 คริสตัล K9 Crystal (Chinese)
‍
     K9 คริสตัลเป็นหนึ่งในคริสตัลที่นิยม ตัวอักษร "K" หมายถึง "มงกุฎ" (โครน) และเลข 9 หมายถึงปริมาณตะกั่ว 9% ของแก้ว

ข้อมูลเพิ่มเติม>>>

     K9 Crystal เป็นวัสดุคริสตัลที่ผลิตโดยใช้แก้วชนิดหนึ่งที่มีคุณภาพสูง ที่ผ่านการตัด เจียระไน เป็นแก้วที่ถูกผลิตมาจากเนื้อทรายละเอียดมากๆ ผสมกับสารโลหะออกไซด์โดยมีลักษณะเป็นความใสและสวยงาม และมีน้ำหนัก มักถูกนำมาใช้ในการสร้างเครื่องประดับ หลอดไฟคริสตัล หรือของตกแต่งอื่น ๆ

     เป็นคริสตัลที่มีราคาจับต้องได้ จึงเป็นที่นิยมที่สุดสำหรับการตกแต่งบ้านให้อยู่ในงบประมาณ แลยังได้ความวิบวับสวยงาม สร้างมิติและสีสรรค์ให้บ้านของคุณน่าอยู่ อบอุ่น และมีรสนิยมที่บ่งบอกความเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวของเจ้าของบ้าน

ขอขอบคุณข้อมูลจาก

tcdcmaterial/ngthai/vadinidecor/iverlight/luxedelier/kapook